ครั้งแรก 7 เทคนิคเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ พูดฟิต TOEICปัง สตางค์อยู่ครบ จบทุกกระบวน

General

บนโลกอันบิดเบี้ยว คนเรามีคนสองประเภท

เทคนิคเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ บนโลกที่บิดเบี้ยว : คนประเภทแรก อัจฉริยะ เป็นประเภทเก่งแต่เกิด คือเรียนก็เก่ง เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ออกกำลังกายเก่งโคตร มีวินัยออกประจำ ทั้งแบดมินตัน วิ่ง ยกน้ำหนัก เรียนภาษาได้ด้วยตนเองไม่ต้องหาคอร์สภาษาอังกฤษ เพราะทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมัน พี่แกเรียนเองได้หมด นี่ถ้ามันมีเวลาคงเรียนครบทุกภาษาในโลกไปแล้ว

คนอีกประเภทนึง คนไทยธรรมดา คือแบบอยู่กับอะไรนานไม่ได้ เรียนรู้ก็งงๆ ต้องหาคนช่วย ม.ปลายก็ต้องเรียนพิเศษ มหาลัยต้องหาเพื่อนติว จะสอบโทอิคยังต้องขอตัวช่วย หาคอร์สเรียนอังกฤษ ไม่สามารถเรียนอะไรได้ด้วยตนเองเพราะขาดกำลังใจ ต้องการจิตวิทยามวลชน

ถ้าคุณเป็นคนประเภทแรก(พวกอัจฉริยะ) ให้ผ่านบทความนี้ไปเลย หรือจะอ่านเพื่อความบันเทิงก็ว่าไป

ถ้าคุณเป็นธรรมดาที่ต้องการตัวช่วย ในการ เรียนคอร์สภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะในทางศาสนาเอาเรื่องนี้มาใช้เป็นจิตวิทยามวลชนมานานแล้ว

เพราะพระเยซูยังบอกว่า

การอธิษฐานกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญของคริสตจักรพอ ๆ กับการนมัสการ, การมีหลักคำสอนที่หนักแน่น, การทำพิธีศีลมหาสนิท, และการมีสามัคคีธรรมร่วมกัน คริสตจักรในยุคแรกเริ่มพบกันเป็นประจำเพื่อฟังคำสอนของอัครทูต, หักขนมปังและอธิษฐานด้วยกัน (กิจการ 2:42) ตั้งแต่หลังจากที่พระคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ (กิจการ 1:14) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเราอธิษฐานร่วมกับผู้เชื่อคนอื่น ๆ ผลที่ได้มีความเป็นบวกสูงมาก การอธิษฐานร่วมกัน, มีความเชื่อร่วมกัน, ช่วยเสริมสร้างและหลอมรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์องค์เดียวกันผู้ทรงอยู่ในพวกเราผู้เชื่อทุกคนจะทรงทำให้หัวใจของเรามีความชื่นชมยินดีเมื่อเราได้ยินคำสรรเสริญพระเจ้าและองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา, สายใยแห่งสามัคคีธรรมจะถักทอเราเข้าไว้ด้วยกันอย่างที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในชีวิต

ทำไมต้องบวช 100,000 รูป : พระธรรมกาย — เอ่อ จะโดนไหมนี่ 5555

“การบวชเป็นหมู่คณะจะดีกว่าบวชเดี่ยวในกรณีที่ว่า พลังหมู่จะเสริมพลังเดี่ยวเหมือนเด็กที่ไม่ยอมไปโรงเรียน แล้วไปบอกพ่อแม่ว่า ผมไม่อยากไปโรงเรียนเพราะคนเยอะวุ่นวาย ขออ่านหนังสือสงบ ๆ นั่งอ่านคนเดียวเงียบ ๆ อยู่ที่บ้านดีกว่า

สมมุติว่าพ่อแม่อนุญาต แล้วเราแอบย่องไปดูว่าเด็กคนนี้จะยอมนั่งอ่านหนังสือตลอดวัน วันละ ๗ชั่วโมง เหมือนอยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่า ซึ่งเราจะพบว่าเด็กน้อยคนมากที่จะดูหนังสือเองได้วันละ ๗ ชั่วโมง ส่วนใหญ่ดูไปสักพักก็จะแอบนอน เล่นอินเทอร์เน็ต แอบแชต เล่นเกม หรือไม่ก็แอบหนีไปเที่ยว แต่เด็กที่ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนตามปกติ แน่นอน..! เขาจะได้เรียนเต็มเวลา คือ ๗ ชั่วโมง เพราะโรงเรียนมีกฎระเบียบ มีอาจารย์คอยดูแลมีเพื่อน มีพลังหมู่ช่วยเสริมพลังเดี่ยว การมาบวชเรียนธรรมะก็เหมือนกัน พลังหมู่จะทำให้เราสามารถลุกมาสวดมนต์ตี ๔ นั่งสมาธิตรงเวลา ได้ศึกษาธรรมะที่มีหลักสูตรที่ถูกวางไว้เป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งการบวชครั้งนี้นับว่าโชคดีมาก เพราะผู้บวชจะได้เรียนรู้ธรรมะจากพระเถระผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมจากทั่วประเทศ ซึ่งการไปบวชเดี่ยวคนเดียว จะไม่ได้รับโอกาสอย่างนี้ ไหน ๆ เราก็สละเวลามาบวชแล้ว การบวชครั้งหนึ่งในชีวิตก็น่าจะได้อะไรที่ดีที่สุดกลับไป”

ซึ่งหมายความว่าการทำอะไรเป็นกลุ่ม เราจะมีวินัยได้มากกว่า เกิดแรงฮึกเหิมได้มากกว่า มีการแชร์สิ่งที่สงสัย หรือสิ่งที่เรียนรู้ได้มากกว่า ให้กับคนในกลุ่ม นั่นก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะเราสามารถแชร์สิ่งที่เจอมาให้คนอื่นๆ และทำให้เผ่าพันธ์ของมนุษย์มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าหลายๆเผ่าพันธ์

บทความนี้จึงสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้คุณผู้อ่าน สามารถเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อไปเรียนเป็นกลุ่มอย่างมีกำลังใจ ที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด เพื่อให้ไปเรียนภาษาสักที่นึง

ซึ่งจะช่วยคุณประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย ในการหา คอร์สสอนภาษาอังกฤษ

และแน่นอนเพิ่มโอกาสต่างๆในชีวิตได้อย่างง่ายดาย

1.เทคนิคเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤ ดูที่วัตถุประสงค์การเรียนเป็นหลัก

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

คอร์สภาษาอังกฤษ

เช็คก่อนว่าคุณต้องการ และจำเป็นต้องใช้อะไร

ถ้าคนทำงาน โทอิคสัก 600-700 น่า จะเป็นใบเบิกทางขั้นต้นที่ดี คอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ โทอิค ก็น่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็น

หากจะเข้าไปบริษัทที่ต้องการโทอิค 600-700 ทางบริษัทน่าจะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ คอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษ ก็อาจจะจำเป็นเช่นกัน

หากอยากจะก้าวหน้าในบริษัทที่เน้นภาษาอังกฤษ ก็อาจจะต้องสื่อสาร ส่งเมล และนำเสนองานเป็นภาษาอังกฤษ คอร์สพูดภาษาอังกฤษ ก็คงหนีไม่พ้น

2. เช็คจากสถานที่ ความสะดวก

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

คอร์สเรียนอังกฤษ

ฮวงจุ้ยที่ดีก็สำคัญ เหยยยยย ไม่ใช่แล้ว แต่สถานที่ใกล้ ไกล บ้าน ก็แอบมีความสำคัญเช่นกัน

“เหนื่อยมากแค่ไหน ต้องลองนึกถึงการเดินทางไกล 25,000 ลี้ดู” เป็นคำพูดที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ “การเดินทัพทางไกลของกองทัพแดง” ในประวัติศาสตร์ของจีน มันทั้งหิวและเหนื่อย

การเดินทัพ ยิ่งไกลทหารยิ่งเหนื่อยล้า และไร้ประสิทธิภาพในการรบ

ตัวสถานที่ก็เช่นกันต้องมีความสะอาด แสงสว่างที่เหมาะสม อุณหภูมิไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไป เพราะเรื่องพวกนี้สำคัญต่อการเรียนรู้และจดจำของสมองที่สถานศึกษาควรให้ความสำคัญ และสำหรับคนเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นกัน

3.ความดังของโรงเรียนในด้านนั้นๆ

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

คอร์สพูดภาษาอังกฤษ

เช่นถ้าเราจะเน้นการสอบ ลองถามคนที่สอบบ่อยๆ หรือคนที่เตรียมจะสอบว่าเขาเคยได้ยินชื่อ สถาบันนั้นๆหรือไม่

หลายๆสถาบันเริ่มต้นจาการสอนโทอิคอย่างเดียว แล้วมีนักเรียนประสบความสำเร็จ แล้วอยากขยายมาสอนพวกไอเอลท์หรือสื่อสาร แต่ไม่ได้เรื่องก็เห็นเยอะนะครับ

หรืออย่างเจ้าดังๆสีน้ำเงินๆบางเจ้า สอนสื่อสารอยู่หลายปี พยายามสร้างส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม โดยมาสอนพวกไอเอลท์แล้วบอกว่า ตัวเองมีประสบการณ์ด้านไอเอลท์ เดี๋ยวๆ คุณไปเอาประสบการณ์มาจากไหนไวจริงๆ 5555

หลายๆสถาบันเค้าก้อมีชื่อเสียงจริงๆแหละ แต่จะให้สอนเก่งทุกคอร์สอังกฤษเลยมันเป็นไปไม่ได้มั้ย? ถามใจดู?

คำถาม: คุณคิดว่าสถาบันสีน้ำเงินดังกล่าวมีชื่อย่อว่าอะไร ?

4.เช็คฟีดแบค สถาบันสอนภาษาอังกฤษ จาก Pantip

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

คอร์สสอนภาษาอังกฤษ

อันนี้ก็ไม่ได้ค่ารีวิวอะไรจากสถาบันนะครับ 55555 ส่วนมากกระทู้รีวิวเค้าชอบขึ้นแบบนี้

ก่อนลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ เคยบอกวิธีเช็คไปแล้วครั้งนึงใน 13 สิ่ง สถาบันสอนภาษาอังกฤษ ไม่มีวันบอกคุณ เช็ค&แชร์ไม่ให้เพื่อนเสียค่าโง่

ขอบอกวิธีย่อๆตรงนี้ไว้อีกที โดยเข้า Google แล้วพิมพื “ชื่อสถาบัน +pantip”

อีกวิธีคือดูดาวและการรีวิวหน้าเฟซบุค ตรงนั้นก็น่าจะมีผู้บริโภคตัวจริงมาบ้าง

ส่วนวิธีสุดท้าย ก็โพสถามในเฟซบุคส่วนตัวเลยก็ได้ ว่าเคยมีใครเรียนที่นี่ๆไหม เป็นอย่างไร เท่านี้คุณก็จะได้ยินคำรีวิวแบบดุเผ็ดเด็ดมันศ์แน่นอน 555

5.เลือกเรียนแบบแบ่งเวลาจัดตารางให้เหมาะสม

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

คอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษ

ชีวิตของคนทำงาน เวลาจะน้อยกว่าพวกน้องๆนักศึกษา

ชีวิตของเจ้าของกิจการ ยิ่งน้อยกว่าคนทำงานซะอีก

แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้เกือบทุกคนจำเป็นต้องใช้ภาษา เพื่อความก้าวหน้าทั้งนั้น

ตอนเรียนว่าไม่มีเวลาแล้ว ตอนทำงานยิ่งมากกว่า ภาษาเป็นสิ่งที่ต้องเน้นการใช้งานจริงให้มากที่สุด ฟังให้มาก พูดให้เยอ เขียนๆๆๆๆ แล้วก็อ่านให้มากๆ แต่อย่าลืมเจียดเวลาสำหรับการทบทวนอย่างพวกแกรมมาร์ คำศัพท์ เพราะหากไม่ทบทวนก็มีสิทธิ์ลืมได้ และชีวิตก็ไม่ได้มีแค่การพัฒนาภาษา ยังมีมิติอื่นๆเช่น สังคม การพักผ่อน นอน กินของดีๆ ครอบครัว

แต่เอาจริงๆส่วนมากไม่ได้มีปัญหาที่ทุ่มให้ภาษาหนักไปหรอก มีแต่ทุ่มให้ภาษาน้อยไป

ส่วนมากอย่างไปเรียนตามที่ต่างๆ ก็เรียนสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง กลับบ้านก็ไปทำนู่นนี่นั่น ไม่ได้ไปฝึกฟังต่อ พอถึงเวลาก็ไปเรียนตามที่ลงไว้ แล้วก็หวังว่าภาษาจะดีขึ้น

ถามจริง มันจะได้เหรอ

ถ้าเป็นไปได้ก็หาสถาบันสอนภาษาอังกฤษ ที่ให้คุณเรียนได้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้/Buffet/ไม่อั้น แบบว่างก็แวะเรียนได้ แบบนี้ภาษาจะพัฒนากว่า

แต่ก็นั่นแหละ หากคุณเป็นคนไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรเคลียร์เวลามาสักหน่อย เพราะต้นไม้ยังต้องใช้เวลาในการรับแดดเพื่อเติบโต แล้วนี่จะพัฒนาภาษาเพื่ออนาคตนะ จะไม่ให้เวลาหน่อยเหรอ

หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ก็หา คอร์สเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น เรียนเอาเฉพาะที่ต้องใช้เฉพาะหน้าไปก่อน

6.เปรียบเทียบ คอร์สต่อคอร์ส

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

เรียนคอร์สภาษาอังกฤษ

เช่นเราจะเรียนโทอิค /ไอเอลท์

เราก็เอาคอร์สของทั้งสองที่ มาวางเลย ว่า

1.ให้กี่ชั่วโมง

2.เน้นสอนอะไรบ้าง มีพื้นฐานไหม มีแกรรมาร์ไหม มีเน้นตะลุยโจทย์ไหม

3.อุปกรณ์เสริม ที่ให้มาอีกมีอะไร เช่น มีตัวเอาไปฝึกฟังที่บ้านมั้ย หรือ มีการบ้านมั้ย มีระบบที่ปรึกษาเวลาสงสัยข้อสอบรึเปล่า

4.การอัพเดต ข้อสอบทันสมัยไหม เนื้อหาอัพเดตหรือเปล่า

5.อาจารย์ผู้สอนคือใคร น่าจะมีความรู้ความชำนาญในหัวข้อนั้นๆแค่ไหน คือไม่จำเป็นต้องจบด็อกเตอร์หรอก เพื่อจะสอนโทอิค แต่ ต้องได้คะแนนโทอิคอย่างน้อยๆก็ 900 จะดีกว่ามั้ย

พอเอามาวางเทียบมันก็เห็นชัดขึ้น ว่าจุดเด่นจุดด้อยเรื่องโครงสร้างคอร์สเรียนภาษาอังกฤษมันเป็นอย่างไร

7. ไม่ว่าคอร์สอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

เรียนคอร์สภาษาอังกฤษ

ในบรรดาทุกหัวข้อที่ผ่านมา จริงๆแล้วข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะเป็นข้อที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาแล้วว่า จะช่วยให้การเรียนพิเศษของคุณได้ผล หากกลับไปทบทวน

มีดที่คม หากไม่ได้เก็บในฝักย่อมทื่อเข้าสักวัน ความรู้กับการทบทวน ย่อมเป็นของที่คู่กัน

หรือแม้กระทั่งคุณได้ทบทวนเพียงแค่หลักการของมันก็ยังเกิดประสิทธิภาพในความจำ และสามารถนำไปใช้งานได้ดี

ทั้ง 7 ข้อที่พูดถึงเราไม่ได้พูดถึง เรียนคอร์สภาษาอังกฤษต่างประเทศ เลย อาจเป็นเพราะเรายังเชื่อมั่นว่าการเรียนในประเทศเนี่ยก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะหา คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ เพราะการเข้าคอร์สภาษาอังกฤษ สักที่นึงจะช่วยประหยัดเวลาในการคลำทางเองของคุณอย่างมาก ยิ่งถ้าคุณมีพื้นฐานน้อย ยิ่งคุ้มค่าสำหรับการลงทุน

ก็ขอจบบทความ ครั้งแรก 7 เทคนิคเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ พูดฟิต TOEICปัง สตางค์อยู่ครบ จบทุกกระบวน ไว้เพียงเท่านี้ ทางทีมงาน Engfinity ก็ขอให้คุณๆ เจอคอร์สถูกใจ เรียนแล้วได้ผลกันนะจ้ะ

เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี  เรียนพูดภาษาอังกฤษ ด้วยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสนุกๆ กับสถาบันสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่

ท่านสามารถติดตามเราได้หลายช่องทาง

Website : สนใจคลิ๊ก

Fan page : สนใจคลิ๊ก

Youtube : สนใจคลิ๊ก

Pantip : สนใจคลิ๊ก

สนใจเรียนภาษาอังกฤษกับ Engfinity

กรุณากรอกรายละเอียดด้านล่างให้ครบถ้วน 

เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ