สถาบันภาษาอังกฤษ ถึงจุดจบ คนไทยไม่ต้องเรียนพูดภาษาอังกฤษ ไม่เชื่อ…คลิ๊ก
การเรียนพูดภาษาอังกฤษ หรือการเรียนภาษาที่สามยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับการทำงานระหว่างประเทศเสมอ
ไม่ว่าคุณจะอยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ศึกษาต่อต่างประเทศ หรืออยากไปทำงานต่างประเทศ
และแม้ว่าคุณจะเป็นคนเก่งหากขาดความสามารถทางภาษา
คุณอาจไม่สามารถทำสิ่งที่ฝันได้ หลายคนหมดความมั่นใจในตัวเองเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษ
หรืออาจต้องหา สถาบันสอนภาษาอังกฤษ เพื่อเรียน
ข่าวดี Logbar บริษัทของญี่ปุ่นได้เปิดตัวอุปกรณ์แปลภาษาสุดล้ำ “ili Wearable Translator” ใช้สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านแอพลิเคชั่นใดๆ การทำงานถือว่าง่ายมากๆ เพียงแค่กดปุ่มตัวเครื่องและพูดเท่านั้น เครื่องก็จะประมวลผลและส่งเสียงอีกภาษาออกมา
โดยรุ่นแรกจะรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน ส่วนรุ่นที่สองรองรับภาษาฝรั่งเศส เกาหลี และไทย กรี้ดไหมละครับคุณ คนไทยก็มีสิทธิกับเค้านะเออ
ส่วนรุ่นที่สามมีทั้งภาษาสเปน อิตาลี และอาหรับ
เรามาเริ่มกันที่ประโยคอวยพรวันเกิดแบบสั้น ๆ แต่ได้ใจความกันดีกว่า
และด้วยการออกแบบในลักษณะเป็น Wearable ดูเหมือนสร้อยคอ หรือเหมือนห้อยนกหวีดไว้เลย ก็สามารถหยิบ ili ในกรณีจะคุยกับชาวต่างชาติได้ทันที ili Wearable Translator มีแผนจะเริ่มเปิดจองในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนปีนี้ ซึ่งตอนนี้ถูกนำแสดงโชว์ครั้งแรกในงาน CES 2016 ที่สหรัฐอเมริกา
ว่าแล้วก็มาลองดูวีดีโอเปิดตัวกันเลยดีกว่า ว่าแซ่บขนาดไหน
วีดีโอเปิดตัวเป็นเรื่องราว การขอจูบกับคนแปลกหน้า ที่ต่างภาษา !!!! ผลจะเป็นไง ต้องลองดู
โดยมีคอนเซปต์คือ Say goodbye to all language barriers
กล่าวอำลาแก่ อุปสรรคทางภาษาทั้งหลาย
ว่าแต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะดีจริงหรือ หรือเราต้องมานั่งเรียนพูดภาษาอังกฤษในสถาบันสอนภาษาอังกฤษกันต่อไป เมื่อเรามองกลับไปถึงประวัติศาสตร์การพัฒนาเครื่องแปลภาษา เครื่องแปลภาษาถูกคิดค้นมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เราอาจพบว่าเครื่องแปลภาษารุ่นแรกๆทำงานได้ไม่ดีเลย เรียกได้ว่าไม่สามารถใช้งานได้น่าจะดีกว่า ผ่านมาสักระยะ เครื่องแปลภาษาสามารถแปลในสิ่งที่พูดตายตัวอย่างพยากรณ์อากาศ แต่ก็ยังไม่สามารถแปลภาษาพูด หรือภาษาที่ซับซ้อน วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา วรรณกรรม ฯลฯ ให้เป็นประโยคที่สวยงาม ธรรมชาติและถูกต้องได้ ผ่านมาหลายร้อยปีจากจุดเริ่มต้น คนไทยก็ยังต้องหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกันต่อไป
จนกระทั่งปี 2013 เกิดการระดมทุนครั้งใหญ่เพื่อสร้างเครื่องแปลภาษามหัศจรรย์นาม Sigmo เครื่องแปลภาษา 25 ภาษาโดยจะต้องจับคู่ภาษาที่เราต้องการแล้วโหลดไปเก็บไว้ในเครื่อง เมื่อเราได้ยินภาษาพูดก็จะมีการแปลงคำเหล่านั้นให้เป็นภาษาของเรา และเมื่อเราต้องการจะพูดก็แค่กดแล้วพูดใส่ เท่านี้เครื่องแปลงก็จะเปลี่ยนเสียงเป็นภาษาที่เราต้องการได้ ถึงแม้ว่าการใช้งานนั้นอาจจะไม่ถูกหลักภาษาเท่าไหร่ แต่การแปลเป็นคำๆ ออกมาก็ช่วยให้เราสื่อสารกับคนอื่นได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย
“Sigmo” อุปกรณ์จิ๋วแต่แจ๋วตัวนี้ สามารถที่จะแปลภาษาได้แบบ Real-time โดยวิธีการใช้งาน Sigmo ก็แสนง่ายเพียงแค่ทำการตั้งค่าภาษาหลักที่ต้องการจะแปล จากนั้นใครพูดอะไรมาก็เครื่องจะทำการแปลตามภาษาที่ตั้งไว้ทันที ซึ่งลักษณะตัวเครื่อง Sigmo จะประกอบไปด้วยปุ่มหลัก ที่ใช้บ่อยอยู่ 2 ปุ่มด้วยกัน คือ ปุ่มแรกไว้สำหรับพูดทันที ที่กดแล้วพูดเครื่องจะแปลคำพูด ออกไปตามที่ได้กดเลือกภาษาเอาไว้ ปุ่มที่สอง คือ เมื่อกดแล้วพูดใส่มันจะแปลจากภาษาต่างประเทศให้เป็นภาษาบ้านเกิด
ทางผู้พัฒนายังได้เตรียมแผนระบบแปล ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ให้กับเจ้าอุปกรณ์ Sigmo
1.การแปลภาษาแบบ Offline
แบบไม่ต้องพึ่งอินเตอร์เน็ต เช่น บริการโหลดคำศัพท์ลงในมือถือเพื่อใช้สื่อสารกับคนอื่นได้ ถ้าหากทำได้จะนับว่าเป็นเจ้าแรก ที่สร้างความแตกต่างและดึงดูดให้ผู้คนหันมาใช้อย่างมาก โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาต่อบริการดาต้าโรมมิ่ง เวลาเดินไปต่างประเทศ
2. Smart Translating Technology
ที่ไม่ได้ช่วยแปลภาษาแบบธรรมดาๆ แต่ยังแปลความหมายในประโยคที่พูดมาด้วย ส่วนจะมีออกมาให้ใช้งานกันเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอกันสักพักเพราะเจ้า Sigmo กำลังอยู่ในขั้นตอนเป็นโปรเจคระดมทุนที่เว็บ Indiegogo แต่หากสำเร็จเมื่อไหร่คงจะเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่จำเป็นในโลกอนาคตแน่
ในครั้งนั้น Sigmo สามารถระดมทุนได้ถึง $248,940 หรือประมาณ 8,712,900 บาท แต่โชคร้ายของเหล่านักฝัน เมื่อ ปี 2014 ทางผู้พัฒนาไม่สามารถสร้าง Sigmo ดังที่โฆษณาไว้ได้ และบริษัทผู้ผลิตได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
มาอีกยุคหนึ่ง เมื่อ Google ริอาจจะก้าวข้ามอดีต และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในสิ่งที่คนไทยรู้จักกันดีนาม Google Translate ที่เมื่อผมลองทดสอบการใช้งานก็ถือได้ว่าค่อนข้างประทับใจ ในส่วนของการเก็บเสียงจากไมโครโฟนได้ใกล้เคียงคำจริงมาก แต่การแปลนั้นยังถือว่าอยู่ในขั้นวิบัติอยู่โดยเฉพาะการแปลประโยคยาวๆและซับซ้อน
คลิปสอนวิธีใช้ Google Translate คุณลองดูกับตา ว่ามีจุดอ่อนจริงหรือเปล่า
ตอนนี้ ili Wearable Translator อาจเป็นความหวังของเหล่าคนไทยที่ไม่อยากเรียนพูดภาษาอังกฤษ แต่มันจะดีอย่างที่โฆษณาไว้จริงหรือ? เราลองมาดูผลงานอันก่อนๆของผู้พัฒนา ili Wearable Translator กันก่อน แหวนครองพิภพ
Cr. Snazzy Labs
เป็นอย่างไรครับ โดนด่ายับ ดูจากเครดิตของบริษัทแล้ว ยิ่งไม่ชวนให้เชื่อเข้าไปใหญ่เลยว่าสิ่งที่บริษัทจะทำออกมาจะเป็นอย่างในโฆษณา ทีนี้ทางเราจึงไปเจอคลิปจาก Voice tv21 ที่บุกป่าฝ่าดงไปงาน CES 2016 ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อไปพิสูจน์เจ้า ili กับทีมวิศวะกรผู้พัฒนา !!!!
http://news.voicetv.co.th/technology/319113.html
ซึ่งเท่าที่ดูแล้วตัวเจ้า ili อาจจะเป็นความฝันของเหล่าคนไทยซะมากกว่า อาชีพล่ามคงยังรอดตัวนะครับงานนี้ จุดจบสถาบันสอนภาษาอังกฤษยังคงเลื่อนออกไป และคนไทยอาจจะต้องเรียนพูดภาษาอังกฤษต่อไปนะครับ โถถถถถถถ… เอาเป็นว่าติดตามเครื่อง ili Wearable Translator ต่อไปสำหรับการเปิดตัวช่วงซัมเมอร์นี้นะครับ ว่าสรุปแล้วมันจะเหมือนวุ้นแปลภาษาของโดราเอมอนหรือเปล่า
เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี เรียนพูดภาษาอังกฤษ ด้วยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสนุกๆ กับสถาบันสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่
ท่านสามารถติดตามเราได้หลายช่องทาง
Website : สนใจคลิ๊ก
Fan page : สนใจคลิ๊ก
Youtube : สนใจคลิ๊ก
Pantip : สนใจคลิ๊ก
สนใจเรียนภาษาอังกฤษกับ Engfinity
กรุณากรอกรายละเอียดด้านล่างให้ครบถ้วน