3 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียน MBA
เตรียมตัวเรียน MBA ? มาดูกันว่าการเรียน MBA นั้น ดีหรือไม่ แล้วทำไมถึงต้องเรียน?
– สำหรับใครที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี
– เหมาะกับคนที่ต้องการอัพเงินเดือนและตำแหน่งงานที่สูงขึ้น
– หรือใครที่ต้องการหา Connection เพิ่มขึ้น
MBA คืออะไร?
เตรียมตัวเรียน MBA : MBA หรือ Master of Business Administration หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต เป็นปริญญาโทที่เรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่อยากจะเรียนรู้ โดยเฉพาะทางด้านธุรกิจการบริหารอย่างการตลาด การเงิน การจัดการทรัพยากรบุคคล หรือบัญชี ระยะเวลาของหลักสูตรอยู่ที่ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กัลแต่ละมหาวิทยาลัยที่เราเลือกเรียน
เตรียมตัวเรียน MBA
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเรียน MBA English Program
ก่อนที่เราจะเรียนต่อ MBA นั้น เราต้องการผ่านทดสอบการวัดระดับความรู้ ความสามารถทั้งข้อเขียนจากทางมหาวิทยาลัย ผลสอบภาษาอังกฤษ อย่างเช่น TOEFL หรือ IELTS (สามารถดู เทคนิคการเตรียมตัวสอบ IELTS ภายใน 10 วัน ได้ที่นี่เลย) และการสอบสัมภาษณ์
นอกจากนี้ยังต้องเตรียมตัวสอบทักษะด้านภาษาอังกฤษด้วย รวมทั้งด้านการสื่อสาร การอ่านบทความ บางทีอาจจะฝึกฟังหรือพูดจากรายการข่าว หรือทางช่องยูทูปต่างๆก็ได้
ถ้ามีเวลาก็สามารถลงเรียนภาษาอังกฤษ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเรียนที่ไหนดี เรามีคอร์สภาษาอังกฤษ ที่ครบทุกหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ด้วยบรรยากาศคลาสเรียนที่สนุก กับสถาบันสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่มาฝากกัน
เคล็ดลับ 3 อย่างที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเรียน MBA English Program
1. เรียนรู้การพูดให้ลื่นไหล : เตรียมตัวเรียน MBA
ทักษะที่เราต้องฝึกในการเรียน MBA แน่นอนว่าต้องเรียนรู้การฝึกฟังและพูด เพราะยังไงเราก็ต้องมีการพรีเซ็นต์งานที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ถ้าคุณมีทักษะการพูดที่ดีมากเท่าไหร่ คุณก็จะดู Professional มากขึ้นเท่านั้น
ลองมาดูกันว่าวิธีที่จะช่วยฝึกพูดมีอะไรบ้าง
• เรียนรู้จากคำศัพท์ทางธุรกิจในช่วงเวลาว่าง
หาเวลาว่าง ๆ เรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่เกี่ยวกับสายงาน อาจจะเป็นคำศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อย่างเช่น สำนวนภาษาอังกฤษในโลกของธุรกิจ ที่คุณไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย การเตรียมตัวเรียนรู้ไปล่วงหน้า จะทำให้เราเข้าใจในการเรียนการสอนมากขึ้น โดยอาจจะเอาคำศัพท์เหล่านั้นมาแต่งเป็นประโยค เพื่อให้จำได้ง่ายขึ้น เวลาพูดก็จะได้มีความมั่นใจ
• หาหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจมาวางไว้ใกล้ตัว
เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ถ้าคุณมีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจวางอยู่ที่ชั้นหนังสือ เพราะมันจะทำให้ได้มุมมองความคิดที่หลากหลาย แถมยังได้ความรู้ที่จะมาช่วยเพิ่มการเรียนได้อีกด้วย อย่างเช่น Start With Why, The Lean Startup, หรือ Zero To One เป็นต้น ในกรณีถ้าไม่มีหนังสือจริงๆ เราสามารถหาได้จากแหล่งออนไลน์ทั่วไป
• ฟังให้เยอะ ฝึกพูดให้บ่อย
วิธีที่ดีที่สุดก็คือการที่เราพูดออกมาให้บ่อยที่สุด ให้เหมือนกับว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเลยก็ได้ แต่การที่เราจะพูดได้คล่องขนาดนั้น เราก็ต้องฝึกฝนจากการฟัง บางทีเราอาจจะหาหนังสักเรื่องที่เราชอบ เพลงสักอัลบั้มที่เราหลงใหล หรือข่าวที่เราสนใจ มาฟังบ่อยๆแล้วมันจะชินหูเราไปเอง
2. เริ่มต้นด้วยการเรียนออนไลน์
ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนหลักสูตร MBA แบบจริงจัง เราควรจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเบื้องต้นจากคอร์สเรียนออนไลน์ที่หาได้ตามเว็บไซต์ต่างๆ แต่ต้องเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ด้วยนะ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจหลักพื้นฐานของธุรกิจ หรือดูหลักสูตรที่เราสมัครเรียน แล้วศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาในแต่ละบท วิธีนี้จะช่วยทำให้การเรียนง่ายยิ่งขึ้น แถมยังสะดวกสบาย เข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายและสามารถเรียนได้ด้วยตัวเองที่บ้านอีกด้วย
บางทีเราอาจจะหาความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมในทุกทักษะ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ฝึกเทคนิคการสื่อสาร หรือศึกษาคำศัพท์ทางธุรกิจ รวมถึงการฝึกเขียนไวยากรณ์ พยายามพาตัวเองไปในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ภาษาอังกฤษ ใช้ให้เป็นส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงานแล้วเราจะชินกับมันไปเอง
3. ใช้แหล่งข้อมูลเพื่อเตรียมตัวสอบ : เตรียมตัวเรียน MBA
ถ้าเราต้องการจะเลือกเรียน MBA หลักสูตร English Program เราต้องเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษตามให้ได้ตามแต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด บางมหาวิทยาลัยก็จะมีการสอบของทางมหาวิทยาลัยเองด้วย อาจจะลองหาข้อมูลเนื้อหาเพื่อที่จะอ่าน และทำข้อสอบเก่าๆให้เตรียมพร้อมอย่างเสมอ
หากเป็นไปได้ให้ขอคำแนะนำจากผู้ที่เคยเรียนมาก่อน ทั้งเรื่องของการเรียน การเตรียมตัว และการสอบ เพื่อง่ายต่อการเตรียมตัวให้พร้อมมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่เรารู้เทคนิคในการเรียน MBA ให้สำเร็จแล้ว เรามาดูกันว่า การเรียน MBA นั้นมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร
ข้อดีของการเรียน MBA
1. ภาษาที่ดีขึ้น
หลายคนเมื่อเรียนจบปริญญาโท มักพบว่าตัวเองมีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้นในด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน ถือว่าการสื่อสารเป็นสื่งที่ดีและจำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะสื่อสารเรื่องความต้องการหรือไอเดียต่างๆของคุณก็ตาม
2. การพัฒนาความคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)
การพัฒนาความคิดของตัวเองนั้น ไม่เพียงแต่จะนำไปใช้ในโลกธุรกิจรึเปล่า แต่ยังครอบคลุมไปถึงด้านต่างๆอีกด้วย อย่างเช่น เป้าหมายส่วนบุคคลและทางด้านการเงิน จะทำให้มีความคิดนอกกรอบและสามารถแก้ปัญหาหลายอย่างได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้การเรียน MBA ยังทำให้คุณออกจาก Comfort Zone (กรอบหรือขอบเขตที่เราสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง ทำให้ยึดติดกับความสบาย) สนใจสิ่งใหม่ๆ รู้จักนำเทคนิคการจัดการใหม่ๆมาใช้ ซึ่งจะสร้างความท้าทายและผลักดันให้มีการปรับตัวและปรับปรุงสิ่งต่างๆตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกวัน
3. จะได้ Connection ที่เพิ่มขึ้น
ในการเรียน MBA ถือว่าเป็นโอกาสหนึ่งในการที่จะทำให้คุณมีเครือข่ายที่ดี ได้ทำความรู้จักกับคนหมู่มาก ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ วิทยากรมืออาชีพ หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานของคุณจากสายธุรกิจโดยตรง มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์โดยตรงจากการทำงานหรือการทำธุรกิจ บางทีคุณอาจจะได้รับงานหรือตำแหน่งที่สูงมากขึ้นก็ได้
ข้อเสียของการเรียน MBA
1. ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การเรียน MBA แบบ English Program นั้น มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ด้วยหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษด้วยแล้วทำให้ค่าใช้จ่ายยิ่งเพิ่มขึ้น ไหนจะค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าทำวิทยานิพนธ์ ค่ากิจกรรมต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
2. เวลาที่หายไป
เนื่องจากเวลาเรียนที่ค่อนข้างหนัก ทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวเลย ยิ่งหากใครที่เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ต้องจัดสรรเวลาการเรียนและการทำงานให้ดีเลยทีเดียวเชียว
3. ประโยชน์ที่น้อยลง เมื่อมีอายุมากขึ้น
ถ้าคุณเริ่มเรียนปริญญาโทหลังจากอายุ 30 ไปเสียแล้ว มันอาจจะสายเกินไป ถึงแม้ว่าคุณจะได้ผ่านการเรียน MBA มาแล้ว ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าคุณจะสามารถทำงานได้มากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะคิดว่า การจ้างคนรุ่นใหม่จะทำให้คุณภาพงานดีกว่า
สรุป
การเรียนต่อ MBA ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป ในทางที่ดีเราก็อาจจะมีกระบวนการคิดใหม่ๆ มองตัวเองในมุมบต่างๆ ได้สังคมใหม่ และการบริหารเวลาที่ดีขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียทีเดียวไป เพราะการที่เราจะเรียน MBA จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง และอาจจะต้องแลกกับเวลาที่เสียไปกับการทุ่มเทให้กับการเรียนอีกด้วย
สำหรับการเรียนต่อหลักสูตร MBA เป็นหลักสูตรที่ค่อนข้างยาก เนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเรายังอ่อนทางด้านนี้อยู่ ก็อาจจะหาเวลาไปเรียนเพิ่มเติม เพราะในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่จำเป็นมากทั้งในด้านการทำงาน และการเรียน
สุดท้ายนี้ อยากฝากไว้ว่า…
การเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม เราจะได้เปรียบคนอื่นเสมอ ถ้าเราไม่มีการเตรียมความพร้อมอะไรเลย ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่ๆ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมที่ดีจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ดีกว่า
สนใจเรียนภาษาอังกฤษกับ Engfinity
กรุณากรอกรายละเอียดด้านล่างให้ครบถ้วน