เทคนิคเตรียมตัวสอบ IELTS ภายใน 10 วัน
เตรียมตัวสอบ IELTS : IELTS (International English Language Testing System) คือการสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การพูด(Speaking) การฟัง(Listening) การอ่าน(Reading) และการเขียน(Writing) สำหรับคนที่มีความฝันอยากไปเรียนต่อ หรือฝึกอบรมในต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ หรือสหรัฐอเมริกา ล้วนแต่ต้องสอบ IELTS ทั้งนั้น ถือว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องใช้ทั้งเวลาและการฝึกฝนเป็นอย่างมาก
วันนี้เรามีเทคนิคเร่งรัด เตรียมพร้อมก่อนสอบ IELTS สำหรับคนที่มีเวลาเพียง 10 วัน ว่าในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง และเตรียมตัวอย่างไร เพื่อเป็นไอเดียในการพัฒนาตัวเอง แต่ขอบอกก่อนว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องมีพื้นฐานมาบ้างแล้วน้า
เตรียมตัวสอบ IELTS : Day 1 – เช็คตัวเองสักหน่อย
ลองทำแบบทดสอบเพื่อเช็คระดับ ว่าเรายังอ่อนอยู่ในส่วนของพาร์ทไหนบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้เวลาไปกับจุดที่เรายังไม่เก่ง แล้วฝึกฝนให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรจะศึกษารูปแบบข้อสอบว่ามีอะไรบ้าง และเราจะต้องจำกัดเวลาเท่าไหร่ในการทำข้อสอบแต่ละพาร์ท
เตรียมตัวสอบ IELTS : Day 2 – หาแหล่งข้อมูลให้มากที่สุด
ก่อนที่เราจะเริ่มเรียน เราควรหาแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่น่าเชื่อถือได้ อาจจะเป็นแนวข้อสอบ บทความ หรือวิธีการเตรียมตัวสอบ เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการอ่านสำหรับในวัดถัดไป
เตรียมตัวสอบ IELTS : Day 3 – เริ่มด้วยการอ่าน
พาร์ทการอ่านในข้อสอบ IELTS ถือว่าเป็นพาร์ทที่ใช้เวลาเป็นอย่างมาก เราเลยจะมาบอกเทคนิคในการอ่านที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการอ่านเร็วอย่างเดียวอาจจะทำให้เราพลาดในการหาคำตอบที่ถูกต้องได้เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการอ่านเร็ว เพื่อเก็บประเด็นหรือใจความสำคัญ หรืออ่านเพื่อเก็บรายละเอียดที่สำคัญ เช่น การหาใจความสำคัญ (Main Idea) เรามักเรียกกันว่า วิธีการอ่านแบบข้าม (skimming)
อีกวิธีนึงคือ การอ่านแบบจับจุด (scanning) คือการอ่านแบบผ่านๆ เพื่อจับประเด็นที่เราต้องการ เช่น คน เวลา ตัวเลข หรือ คำสำคัญบางคำในการอ่านข้อสอบ เพื่อความคล่องแคล่วในการเลือกคำตอบ และควรทำความเข้าใจในการ Paraphrasing คือกล่าวถึงผู้อื่นด้วยถ้อยคำและสไตล์ของเราเอง เหมือนกับการแปลจากสไตล์การเขียนของคนอื่นมาเป็นในแบบของเราเอง เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
และ Rewording การเปลี่ยนคำเป็นไปตามความเข้าใจของเราเอง หรือคล้ายๆคำ synonym นั่นเอง ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นหัวใจหลักของพาร์ทนี้เลย นอกเหนือจากการที่เราจะจ้องหน้าหนังสือแล้ว ควรหาสิ่งใหม่ๆจากรอบตัว จากบทความหรือนิตยสารออนไลน์ในเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ ถือว่าเป็นการผ่อนคลายแถมยังทำให้เราจำได้เร็วขึ้นอีกด้วย
Day 4 – ฟังเยอะๆแล้วจะดีเอง
หากต้องการคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษาสำเนียงบริติช เราควรจะฝึกฟังจากหลายๆช่องทาง ในเว็บไซต์ข่าวที่เป็นที่นิยมอย่าง BBC หรือ The Guardian จะมีวิดีโอรายงานข่าวสั้นๆ ที่สามารถดูได้ฟรีๆอีกด้วย แต่ถ้าไม่ชอบดูข่าว อาจจะดูหนังหรือซีรีส์จากทาง Netflix โดยเราจะเปิด subtitle หรือไม่เปิดก็ได้ เพิ่มเติมคือเราควรจะฝึกการฟังแบบบทพูดคนเดียว บทสนาทนาระหว่างสองคน หรือแบบกลุ่มเพื่อทำความคุ้นเคยกับการจับใจความในข้อสอบ
Day 5 – ลองเขียนจากสิ่งรอบตัว
ถ้านึกไม่ออกว่าจะเขียนหัวข้ออะไรดี แนะนำให้ลองเขียนจากสิ่งรอบตัวก่อน โดยเริ่มจากการเขียนไดอารี่เล่าชีวิตประจำวันสั้นๆ จะทำให้เราคุ้นเคยกับฟอร์มการเขียนมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะถามจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะให้ช่วยเช็คไวยากรณ์ เนื่องจากข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นแกรมม่าจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและควรจะฝึกฝนให้มากๆ
Day 6 – ฝึกสำเนียงให้เป๊ะแบบเจ้าของภาษา
วิธีการฝึกสำเนียงให้คล้ายกับเจ้าของภาษามากที่สุดแบบง่ายๆเลยก็คือ เราควรจะฝึกพูดกับเจ้าของภาษา หรือคนที่มีความเชี่ยวชาญ แล้วลองให้เขาให้คะแนนดูสิ บางทีถ้าไม่สะดวกจริงๆ เราอาจจะลองฝึกพูดคุยหรือซ้อมกับตัวเองที่บ้าน โดยอัดเสียงเก็บไว้แล้วนำกลับมาฟังซ้ำ เพื่อปรับปรุงและแก้ไขในเรื่องของไวยากรณ์ หรือการออกเสียง เป็นต้น หรือว่า YouTube ถือเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียว โดยฟังเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษ จะช่วยให้คุ้นเคยกับสำเนียงมากยิ่งขึ้น
Day 7 – พัฒนาในสิ่งที่ยังไม่ได้
หลังจากที่เราได้ฝึกครบทั้ง 4 ทักษะแล้ว เราควรจะนำข้อสอบมาฝึกทำพร้อมจับเวลา นอกจากเราจะได้รู้ระดับตัวเองแล้ว เรายังได้ทำความคุ้นชินกับรูปแบบของข้อสอบในแต่ละพาร์ทอีกด้วย พยายามจับเวลาในทุกพาร์ทเพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองยังช้าในสิ่งไหนอยู่ เพราะว่าเวลาสำคัญที่สุดในการทำข้อสอบ นอกจากนี้เรายังรู้ด้วยว่า เรายังอ่อนในจุดไหน จะได้พัฒนาในขั้นตอนต่อไป
Day 8 – เพิ่มเติมในสิ่งที่ขาด
เนื่องจากเหลือเวลาไม่มากแล้ว ถ้าหากมีเวลาควรศึกษาหาคำศัพท์เพิ่มเติม เมื่อได้อ่านหรือฟังการสนทนาเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ลองลิสต์รายการคำศัพท์ แล้วก็หาความหมาย เพื่อให้เข้าใจความหมายของแต่ละคำได้อย่างถูกต้อง และดูคำ synonym เพื่อฝึกคำเหล่านั้นแล้วนำไปปรับใช้ ยิ่งเรารู้คำศัพท์มากเท่าไหร่ ก็จะเข้าใจในส่วนของการอ่านและการฟังมากขึ้นเท่านั้น แถมการพูดกับการเขียนก็จะแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย บางทีเราอาจจะไปคนที่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษมาข่วยสอนในสิ่งที่เราขาด หรือขอคำแนะนำในการสอบ IELTS ก็ได้นะ
Day 9 – ทำพร้อมกันสิดีกว่า
Multi-tasking หรือ การที่เราฝึกทักษะพร้อมๆกันในหลายๆด้านในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำข้อสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพาร์ทของการฟัง เพราะว่าต้องฟัง แล้วก็จับใจความไปด้วย แถมยังต้องจดโน้ต และทำข้อสอบไปด้วยอีก ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนทักษะนี้ให้เยอะๆ แถมวิธีนี้จะช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณในระยะยาวได้อีกด้วย
Day 10 – ทบทวนแล้วพร้อมลุย!
มาถึงวันสุดท้ายของการเตรียมตัวก่อนสอบ ควรทำแบบฝึกหัดสักชุดสองชุด เพื่อเช็คตัวเองอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ใช้เวลาพักผ่อน ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ เพื่อผ่อนคลายตัวเองสักหน่อย ให้สมองได้พักบ้างหลังจากที่ได้เตรียมความพร้อมก่อนสอบมาอย่างหนักแล้ว
Bonus Tips
- ถ้าตอนไหนที่คุณเผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น เป็นไปได้ ลองเปิดเกมทายคำศัพท์ขึ้นมาเล่นดูสิ นอกจากจะได้พักสมองแล้ว ยังได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆอีกด้วย
- ควรสร้างเป้าหมายในแต่ละวัน เพื่อเราจะได้ไม่หลุดโฟกัส และสามารถทำตามแบบแผนได้
- อย่ากังวลมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เราไม่มีสมาธิ หมกมุ่นอยู่กับความคิดนั้น รู้ตัวอีกทีก็หมดไปวันนึงแล้ว
- พยายามฝึกใช้ภาษาอังกฤษให้ติดเป็นนิสัย เช่น ดูหนังฝรั่ง อ่านบทความ และพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ
สุดท้ายนี้…
อยากจะบอกทุกคนว่า การที่เราได้มีเวลาฝึกทำข้อสอบเยอะๆนั่นย่อมเป็นสิ่งที่สุด ยิ่งเราฝึกมากเท่าไหร่ เราก็จะได้คะแนนดีมากเท่านั้น แถมยังทำให้เรามีความมั่นใจและสามารถจำกัดเวลาในการทำข้อสอบได้อีกด้วย พยายามใช้ 10 วันให้คุ้มค่า แล้วอย่าลืมพกความมั่นใจไปสอบด้วยล่ะ! เพราะความคิดของคุณมีผลในการทำข้อสอบ ถึงแม้ว่ามันจะยาก แต่รับรองว่าถ้าตั้งใจมันจะต้องออกมาดีแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ
Learn to use a range of functional language – IELTS
สนใจเรียนภาษาอังกฤษกับ Engfinity
กรุณากรอกรายละเอียดด้านล่างให้ครบถ้วน